คนโตเกียวเสพงานศิลปะ ราวกับเป็นลมหายใจที่ขาดไม่ได้ในทุกวัน
Photos & Writers:
Siritham Sawangploy
Siritham Sawangploy
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายปีที่ผ่านมาคนไทยที่ไปญี่ปุ่นมักมีขนมหรือของใช้ที่ซื้อกลับมา ทั้งเป็นของฝากและซื้อมาใช้เอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ซื้อเพราะต้องมนต์สะกดของแพกเกจจิ้ง ดีไซน์ หรืองานออกแบบหีบห่อ ที่ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทั้งมีไอเดียแปลกใหม่ และแน่นอนว่าน่าสะสมไปด้วยในคราวเดียวกัน
ยุคสมัยนั้น หลายคนมักพูดว่า “ถ้าจะดูเรื่องงานศิลปะของญี่ปุ่น ให้ดูที่ Packaging Design” เพราะจะเห็นได้ชัด รวมถึงง่ายในการรับรู้ว่าหีบห่อแต่ละชิ้นนั้นบอกเล่าถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นว่ามีความเกี่ยวโยงกับศิลปะมากแค่ไหน
แต่ทุกวันนี้...ขอบอกเลยว่า คนญี่ปุ่นโดยเฉพาะที่โตเกียว กับเรื่องศิลปะนั้น ได้หลอมหลวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วเป็นที่เรียบร้อย หรือพูดได้ว่า ศิลปะคือส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เป็นเสมือนลมหายใจที่แยกกันไม่ขาด และจริงๆ ก็คงไม่จำเป็นต้องแยกออกจากกัน ศิลปะกับการใช้ชีวิตนับเป็นสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน และอยู่คู่กันในทุกวัน คือเป็น Daily Art & Live นั่นเอง
ถ้าพูดถึงเรื่อง “ศิลปะการแต่งตัว” สายแฟชั่นคงยอมรับกันว่าย่าน Harajuku คือแหล่งอัพเดตหรือย่านที่ควรไปตามส่องวิถีการแต่งตัวของหนุ่มสาวชาวโตเกียว อยากรู้ว่าเทรนด์ไหนกำลังมา หรือตอนนี้อะไรฮิตให้มาที่นี่ แต่นั่นอาจเป็นเรื่องราวที่ต่างไปจากปัจจุบันนี้โดยสิ้นเชิง เพราะทุกวันนี้หนุ่มสาวชาวโตเกียวขยันแต่งตัวกันเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องรอแต่งไปประชันกันเฉพาะเสาร์อาทิตย์ที่ย่าน Harajuku เท่านั้น แต่ในทุกวันเราสามารถพบเจอคนแต่งตัวตามสไตล์ของตัวเอง ชอบแบบไหนแต่งแบบนั้น แต่งโดยไม่สนใจเทรนด์แฟชั่นว่าใครเขาจะฮิตอะไร แค่รู้ว่าสไตล์ของตัวเองเป็นแบบไหน จะ Mix & Match ยังไง ก็ดูลงตัวดูพอดีและแน่นอนว่า “ดูดี” ไปซะหมด ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะว่าศิลปะการแต่งตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเสียแล้วนั่นเอง เราจึงมักพบเห็นคนญี่ปุ่นในโตเกียวแต่งตัวกันราวกับว่าไม่แคร์โลก ไม่สนว่าใครจะมองหรือวิจารณ์ว่ายังไง ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว ก็ไม่มีใครมาจับจ้องหรือคอยวิจารณ์กันนักหรอก
ดังนั้นภาพที่เราเห็นในโตเกียวบ่อยๆ คือ หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่แต่งตัวดีมีสไตล์ และเดินถนนราวกับเดินอยู่บน Catwalk อย่างไรอย่างนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะเขาเข้าใจในจิตวิญญาณของงานศิลปะที่หัวใจของตัวเองเรียกร้องและรู้ว่าตัวเองมีสไตล์แบบไหน และไม่จำเป็นต้องเหมือนหรือตามใคร
นอกเหนือจากเรื่องศิลปะในการแต่งตัวแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างปกติ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเกี่ยวโยงกับเรื่องศิลปะอย่างเป็นธรรมชาติ ที่ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่เราก็รับรู้และรู้สึกได้ว่าคนญี่ปุ่นเสพงานศิลปะในชีวิตประจำวันจนเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางของขายในตลาดของมือสองหรือ Flea Market ก็มีการจัดวางที่ดูดีและมีศิลปะในการจัดวางไม่ต่างอะไรกับตู้โชว์สินค้าในห้าง ทั้งๆ ที่เป็นตลาดของคนท้องถิ่นแบบเรียบง่าย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในการนำเสนอสินค้าของตัวเอง
นอกเหนือจากเรื่องศิลปะในการแต่งตัวแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างปกติ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเกี่ยวโยงกับเรื่องศิลปะอย่างเป็นธรรมชาติ ที่ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่เราก็รับรู้และรู้สึกได้ว่าคนญี่ปุ่นเสพงานศิลปะในชีวิตประจำวันจนเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางของขายในตลาดของมือสองหรือ Flea Market ก็มีการจัดวางที่ดูดีและมีศิลปะในการจัดวางไม่ต่างอะไรกับตู้โชว์สินค้าในห้าง ทั้งๆ ที่เป็นตลาดของคนท้องถิ่นแบบเรียบง่าย แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในการนำเสนอสินค้าของตัวเอง
หรือแม้แต่กำแพงต่างๆ ระหว่างทางเท้า ประตูเหล็กของร้านค้า ก็มีการวาดลวดลายบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจและชวนเพลินในการมองผ่านและจดจำถึงศิลปะในการสร้างสรรค์ที่ล้วนมีอัตลักษณ์บ่งบอกถึงเส้นสายลายเซ็นของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นให้ลงตัวและเข้ากันกับพื้นที่ใช้สอยของสถานที่นั้นๆ ได้อย่างแยบยล
ปกติเวลาเราอยากดูงานอาร์ต นิทรรศการภาพถ่ายของศิลปิน เรามักต้องไปตามหอศิลป์ หรือไม่ก็ Art Gallery ใช่หรือไม่ แต่ที่โตเกียวในทุกวันนี้ ชีวิตไม่ต้องลำบากขนาดนั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่เล็กๆ ในย่านชุมชน หรือล็อบบี้โรงแรมขนาดย่อม ก็ล้วนมีผลงานของศิลปินมากฝีมือมาจัดแสดง กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Daily Life Experience ที่ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรให้ยุ่งยาก ตอนเช้าเดินไปจิบกาแฟ ก็ได้เสพงานศิลปะชั้นดีไปด้วยในเวลาเดียวกัน บางคาเฟ่ถึงขั้นร่วมกันกับศิลปินเปิดคาเฟ่เฉพาะเพื่อเป็นที่โชว์ผลงานของศิลปินเลยก็มี อย่างเช่น Murakami @ Bar Zingaro ที่ Nakano Broadway ในย่าน Nagano ที่ตกแต่งร้านด้วยผลงานของ Murakami รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดกับข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างในคาเฟ่เป็นงานดีไซน์ของศิลปินอย่างสมบูรณ์แบบราวกับได้มานั่งจิบกาแฟ ชิมขนม ในบ้านพักส่วนตัวของศิลปินไม่ผิดเพี้ยน
กรุงเทพฯ บ้านเรามี Art Community เยอะแค่ไหนนี่ไม่รู้มีใครเคยนับกันบ้างหรือเปล่านะ แต่ที่โตเกียวนี่ หลายๆ ที่ที่เป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิตของผู้คนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือ Flagship Store ของแบรนด์ใหญ่ๆ รวมไปถึงกลุ่มอาคารสำนักงานที่อยู่ร่วมกันมากกว่า 3-4 อาคาร สถานเหล่านั้นจะมี Art Community อยู่ด้วยเสมอ ไม่ต้องใช้คำว่าแฝงตัว หรือเป็นพื้นที่พิเศษ เพราะที่โตเกียวความเป็น Art Community จะหลอมหลวมกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน แบบอยู่ร่วมกันเป็น Daily Art Lifestyle ที่เราสามารถพบพานกับ Designer Hub, Artist Workspace ได้แทบทุกจะย่านของโตเกียวตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็เช่น Tokyo Midtown ที่เป็นกลุ่มอาคาร 6 ตึก อันประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน โรงแรมที่พัก ช้อปปิ้งมอลล์ พิพิธภัณฑ์ และแน่นอนกับพื้นที่ที่เป็น Art & Design Community ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะรู้จัก Tokyo Midtown ว่าเป็นจุดไปถ่ายรูปกับเทศกาลไฟประดับ Winter & Christmas Illumination ที่จัดอย่างอลังการในทุกปี แต่จริงๆ แล้วอยากบอกว่าถ้าใครเป็นสายอาร์ตรักงานศิลปะ ชอบงานดีไซน์ ที่ Tokyo Midtown นี่มีงานดีๆ ให้ดูตลอดทั้งปี หรือพูดได้ว่ามาเมื่อไหร่ก็มีงานศิลปะให้ดูทุกครั้งไป ซึ่งนอกเหนือจาก Tokyo Midtown แล้ว ในย่านอื่นๆ ของโตเกียวก็มักมี Art Community รอให้เราได้ไปสัมผัสอย่างสะดวกและเข้าถึงง่าย และส่วนใหญ่ก็ไม่เสียค่าเข้าหรือค่าบริการใดๆ เพิ่มด้วย
นับได้ว่าการใช้ชีวิตประจำวันของชาวโตเกียวมีความเกี่ยวพันกับงานศิลปะจนเป็นเรื่องปกติ หรือจะพูดว่าใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะในทุกวันก็คงได้เช่นกัน ซึ่งจริงๆ แล้วชีวิตกับศิลปะและวัฒนธรรมนั้น เป็นสิ่งที่เกื้อกูลกันและกันเสมอ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้การมีชีวิตมีความหมายและมากคุณค่าเพื่อการหายใจในแต่ละวัน เพราะหากไร้ซึ่งศิลปะของการใช้ชีวิตแล้ว เราคงไม่ต่างอะไรจากซอมบี้ หรือสิ่งมีชีวิตเดินได้แต่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาและหาความหมายในการมีชีวิตอยู่ไม่ได้แม้แต่น้อย