“เมื่อชีวิตคุณตกต่ำถึงขีดสุด…คุณจงเขียนหนังสือ” ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
ผมนั่งเขียนบทความเรื่องราวของผมในอู่เล็กๆ แห่งหนึ่งที่แทรกตัวอยู่ในซอยแคบๆ แถวลาดพร้าว เสียงทีวีที่กำลังถ่ายทอดสดกีฬาดังอยู่ข้างหลังของผม ผสมกับเสียงเครื่องมือที่กระทบกับโลหะบางอย่างที่อยู่ในรถยนต์สักคัน เจ้าของอู่เป็นชายรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของเพื่อนผม เรารู้จักกันมานาน เท่าที่รถเก๋งร้ายๆของผมจะพัง นับวันแรกที่ผมรับรถมือสองด้วยหัวใจพองโต ถัดจากนั้นอีกสักสองอาทิตย์ผมก็เข้ามาที่นี้ และนานๆ ครั้งก็เข้ามาเพื่อดูแลรักษาหัวใจร้ายๆ ของเจ้าเมอร์เซเดสที่มีอายุกว่า 30 ปี
เสียงของมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านไปมาไม่ขาดสาย มันทำให้ผมกลับไปวันที่ผมกำลังควบเจ้า Versys X 250 ลุยเข้าไปในป่าดงดิบ หรือเรียกได้ว่าป่าดิบชื้นที่น่าทึ่ง เส้นทางที่ว่าถูกสำรวจไว้เมื่อ 6 เดือนก่อนการแข่งขัน Rimba Raid / Jungle Rally 100 km. เส้นทางที่ท้าทาย 1 ใน 3 ของเส้นทางคือขบวนรถขนซุงที่น่าเกรงขาม ทิ้งร่องรอยลึกระดับครึ่งนึงของล้อ 19” ถ้าหลุดลงไปมีหักแน่นอน การแข่งขันครั้งนี้ แค่ฟังชื่อก็ท้าทายจนผมต้องต่อสายตรงไปยัง Italy เพื่อพูดคุยกับคุณ Joseph บอสใหญ่แห่ง GIVI ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
ผมนั่งเขียนบทความเรื่องราวของผมในอู่เล็กๆ แห่งหนึ่งที่แทรกตัวอยู่ในซอยแคบๆ แถวลาดพร้าว เสียงทีวีที่กำลังถ่ายทอดสดกีฬาดังอยู่ข้างหลังของผม ผสมกับเสียงเครื่องมือที่กระทบกับโลหะบางอย่างที่อยู่ในรถยนต์สักคัน เจ้าของอู่เป็นชายรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของเพื่อนผม เรารู้จักกันมานาน เท่าที่รถเก๋งร้ายๆของผมจะพัง นับวันแรกที่ผมรับรถมือสองด้วยหัวใจพองโต ถัดจากนั้นอีกสักสองอาทิตย์ผมก็เข้ามาที่นี้ และนานๆ ครั้งก็เข้ามาเพื่อดูแลรักษาหัวใจร้ายๆ ของเจ้าเมอร์เซเดสที่มีอายุกว่า 30 ปี
เสียงของมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านไปมาไม่ขาดสาย มันทำให้ผมกลับไปวันที่ผมกำลังควบเจ้า Versys X 250 ลุยเข้าไปในป่าดงดิบ หรือเรียกได้ว่าป่าดิบชื้นที่น่าทึ่ง เส้นทางที่ว่าถูกสำรวจไว้เมื่อ 6 เดือนก่อนการแข่งขัน Rimba Raid / Jungle Rally 100 km. เส้นทางที่ท้าทาย 1 ใน 3 ของเส้นทางคือขบวนรถขนซุงที่น่าเกรงขาม ทิ้งร่องรอยลึกระดับครึ่งนึงของล้อ 19” ถ้าหลุดลงไปมีหักแน่นอน การแข่งขันครั้งนี้ แค่ฟังชื่อก็ท้าทายจนผมต้องต่อสายตรงไปยัง Italy เพื่อพูดคุยกับคุณ Joseph บอสใหญ่แห่ง GIVI ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
เมื่อสายตรงเรียบร้อย ผมยกหูหาเพื่อนอีกท่านนึง(COMFORTA COMPANY) คือคนที่ผมเคยร่วมงานกันเมื่อปีก่อนที่ผมดูแลการเดินจากไทย ไปเขมร และเวียดนาม ทริปนี้ได้รับการทาบทามจากคุณ Joseph เมื่อครั้งที่ผมไปแสดงงานที่ CentralWorld ในงาน Bangkok Bike Fest 2016 วันนั้นแกเดินมาหาผมโดยตรงและถามว่า ภาพถ่ายพวกนี้ใครเป็นคนทำ ผมตอบกลับไปว่า “ผมเองครับ” สักพักแกถามกลับมาว่า “คุณทำทริประหว่างประเทศให้เราได้มั้ย..และภาพทั้งหมดขอให้คุณเป็นคนดูแล”
นั่นคือที่มาของการเดินทางในครั้งนั้น สายสัมพันธ์อันดีก็ค่อยๆงอกงาม ผมได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยเกียรติและความไว้วางใจ สุดท้ายคือเรื่องราวที่กำลังจะเล่าให้ฟัง นั่นคือการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของใครหลายๆคน “Rimba Raid 2018” ที่จัดขึ้นที่ Mat Daling ประเทศมาเลเซีย
ผมคือช่างภาพคนไทยคนเดียวที่เข้าร่วม เป้าหมายของผมคือพยายามเก็บภาพของเพื่อนนักแข่งชาวไทยที่มีกว่า 20 ท่านที่เดินทางมาแข่งขัน ทุกคนมาด้วยทุนของตัวเอง ผมก็เช่นกัน
นั่นคือที่มาของการเดินทางในครั้งนั้น สายสัมพันธ์อันดีก็ค่อยๆงอกงาม ผมได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยเกียรติและความไว้วางใจ สุดท้ายคือเรื่องราวที่กำลังจะเล่าให้ฟัง นั่นคือการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของใครหลายๆคน “Rimba Raid 2018” ที่จัดขึ้นที่ Mat Daling ประเทศมาเลเซีย
ผมคือช่างภาพคนไทยคนเดียวที่เข้าร่วม เป้าหมายของผมคือพยายามเก็บภาพของเพื่อนนักแข่งชาวไทยที่มีกว่า 20 ท่านที่เดินทางมาแข่งขัน ทุกคนมาด้วยทุนของตัวเอง ผมก็เช่นกัน
เมื่อผมเดินทางด้วยเครื่องบินมาถึง KL เราพักที่นั่น 1 คืน เช้าอีกวันเราเดินทางมุ่งหน้าไปที่ Kuala Tahan ทันที ตลอดเส้นทางที่ผมขี่ไปเต็มไปด้วยธรรมชาติที่ร่มรื่นเขียวเข้มจนขมคอ ผมมีบัดดี้เป็นช่างภาพจากอิโดนีเซียชื่อว่า วิษณุ เราลุยกันมาแล้วหลายประเทศ เป็นคนที่เก่งกาจเรื่องการถ่ายทอดภาพเคลื่อนไหว ทำงานเหมือนทหารรับจ้างแบบผม … ถึงที่พักด้วยความตื่นเต้น เพราะได้ข่าวมาว่า นักแข่งไทยกว่า 10 คนหลงทางไปอีกฝั่งหนึ่งของประเทศ กำลังดิ่งกลับมาให้ทันการคัดตัวซึ่งเหลือเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนความมืดจะมาเยือน
คืนนั้นผมฝันร้าย ฝันว่ากำลังหนีงูยักษ์ เป็นงูที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และงูตัวนั้นกัดเข้าไปที่ขาของผมจนกระดูกแหลกคาเขี้ยวของมัน … ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำรามแรกของเครื่องยนต์ ที่กำลังจะออกเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นแข่งขัน ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งไกลออกไปเกือบ 20 กิโลเมตร
คืนนั้นผมฝันร้าย ฝันว่ากำลังหนีงูยักษ์ เป็นงูที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และงูตัวนั้นกัดเข้าไปที่ขาของผมจนกระดูกแหลกคาเขี้ยวของมัน … ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำรามแรกของเครื่องยนต์ ที่กำลังจะออกเดินทางไปยังจุดเริ่มต้นแข่งขัน ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่งไกลออกไปเกือบ 20 กิโลเมตร
ผู้คนกว่าครึ่งพันพร้อมรถคู่ใจ กำลังลุยฝุ่นเข้าไปในกองซุงที่สูงกว่าตึก 3 ชั้น ผมสูดหายใจลึกๆ ด้วยการกดชัตเตอร์เหมือนคนบ้า ลั่นไปกว่า 100 รูปเพื่อวอร์มเครื่อง แสงสีทองโผล่พ้นยอดต้นไม้โบราณ เงาของนักรบที่พร้อมจะห้ำหั่นงดงามดั่งสนามรบในตำนาน ผมเดินไปทั่วเพื่อเก็บภาพเหมือนเด็กน้อยเพิ่งหัดถ่ายภาพ เห็นอะไรก็เก็บ ไม่สนใจอากาศที่กำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เสียงจากโทรโข่งของกัปตันนิค ประกาศให้เตรียมตัว อีกไม่กี่วินาทีนักแข่งชุดแรกจะออกจากจุดปล่อยตัว ส่วนผมยังรอรถวิบากสักคันที่พร้อมจะเข้าไปลุยในป่าดิบชื้นแห่งนั้น ภาพงูยักษ์ก็ผุดขึ้นมาพร้อมกับคำสาปแช่งในฝัน ผมขนลุกไปทั้งตัว ตั้งแต่เดินทางมาเกือบ 20 ปี ครั้งนี้ถือว่าผมไม่มีความมั่นใจอะไรเลย รู้สึกไม่ปลอดภัยจริงๆ
เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เสียงจากโทรโข่งของกัปตันนิค ประกาศให้เตรียมตัว อีกไม่กี่วินาทีนักแข่งชุดแรกจะออกจากจุดปล่อยตัว ส่วนผมยังรอรถวิบากสักคันที่พร้อมจะเข้าไปลุยในป่าดิบชื้นแห่งนั้น ภาพงูยักษ์ก็ผุดขึ้นมาพร้อมกับคำสาปแช่งในฝัน ผมขนลุกไปทั้งตัว ตั้งแต่เดินทางมาเกือบ 20 ปี ครั้งนี้ถือว่าผมไม่มีความมั่นใจอะไรเลย รู้สึกไม่ปลอดภัยจริงๆ
นักแข่งได้ถูกปล่อยตัวเข้าไปเป็นชุดที่สอง ผมหันไปมองหน้าของวิษณุเพื่อนยาก สายตาของผมบอกว่า “กูไม่เข้า” แต่วิษณุตอบกลับมาด้วยวาจาว่า “ยูทำได้..ไอจะอยู่กับยู” เท่านั้นแหละ ผมก็สวมเสื้อการ์ดทันที เอาวะเป็นไงเป็นกัน สะพายกล้องแนบข้างตัวพร้อมถ่าย และสตาร์ทเครื่องออกตัวไปก่อนนักแข่งหมายเลข 13 มีวิษณุควบ Tiger XCA800 ตามมาด้วยวาฮิฟนักข่าวจากทีม GIVI มาเลเซีย ที่ขี่ KTM ADV
คันเร่งของผมตึงและผ่อนตามจังหวะของเส้นทาง โดรนถูกมัดไว้ท้ายรถของผม และในกล่องอลูท้ายรถ บรรจุชุดเลนส์ราคาครึ่งล้านเอาไว้ มีกล้วยและน้ำดื่มแพ็คมาด้วย โจทย์ของผมคือ ต้องไปให้ถึงจุดสุดท้ายก่อนบ่ายสาม ถ้ายังไม่ถึงให้ไปอีกเส้นทางเนื่องจากเส้นนั้นจะมีเสือโคร่ง และช้างป่ารอเราอยู่
คันเร่งของผมตึงและผ่อนตามจังหวะของเส้นทาง โดรนถูกมัดไว้ท้ายรถของผม และในกล่องอลูท้ายรถ บรรจุชุดเลนส์ราคาครึ่งล้านเอาไว้ มีกล้วยและน้ำดื่มแพ็คมาด้วย โจทย์ของผมคือ ต้องไปให้ถึงจุดสุดท้ายก่อนบ่ายสาม ถ้ายังไม่ถึงให้ไปอีกเส้นทางเนื่องจากเส้นนั้นจะมีเสือโคร่ง และช้างป่ารอเราอยู่
ผมนำหน้าวิษณุมาได้สักพัก ก็แวะดักรอเพื่อเก็บภาพของนักแข่ง ตรงนั้นผมมีเพื่อนเป็นแรงงานขนซุง ประมาณสี่คน เวลาในตอนนั้นใกล้เที่ยง บางคนแวะจอดรถขนซุงไว้ริมทาง และนั่งทานข้าวเที่ยงจากอาหารที่ใส่มาในถุงพลาสติก น้ำดื่มจากขวด แค่นั้นจริงๆ ผมขอถ่ายภาพกับคนงานขนซุงเสร็จแล้ว ก็เดินทางต่อ ระหว่างทางผมเจอกับนักแข่งที่มีอุบัติเหตุและรถพัง น่าจะมีถึง 6 คัน จากจุดสุดท้ายที่ผมเจอนักแข่งที่รถเสีย ผมค่อยๆ เปิดคันเร่งเพื่อทำเวลา และในที่สุด ผมก็เจอจุดถ่ายภาพที่ผมฝันเอาไว้ นั่นคือฉากหลังที่มีต้นไม้ขนาดยักษ์สูงสุดสายตา แสงส่องลงมาเป็นทาง ตัดกับภาพนักแข่งที่กำลังมุ่งมั่นทำเวลา
นักแข่งค่อยๆ แซงผมไปเรื่อยๆ เพราะผมแวะถ่ายภาพตลอดเส้นทาง 100 กิโลเมตร ผมน่าจะอยู่ครึ่งทางละ เมฆหนาๆ หนักๆ ค่อยๆ ไหลผ่าน ลมเย็นเข้ามาบ้างบางครั้ง บรรยากาศเริ่มเงียบวังเวง ในที่สุดผมก็เจอกับนักแข่งชุดสุดท้าย คือนักแข่งที่เดินทางมาจากประเทศจีน ผมลืมเล่าให้ฟังว่าการแข่งขันในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมหลายประเทศ เป็นอะไรที่น่าสนใจมากครับว่า งานแบบนี้น่าจะมีในประเทศไทยบ้าง
นักแข่งค่อยๆ แซงผมไปเรื่อยๆ เพราะผมแวะถ่ายภาพตลอดเส้นทาง 100 กิโลเมตร ผมน่าจะอยู่ครึ่งทางละ เมฆหนาๆ หนักๆ ค่อยๆ ไหลผ่าน ลมเย็นเข้ามาบ้างบางครั้ง บรรยากาศเริ่มเงียบวังเวง ในที่สุดผมก็เจอกับนักแข่งชุดสุดท้าย คือนักแข่งที่เดินทางมาจากประเทศจีน ผมลืมเล่าให้ฟังว่าการแข่งขันในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมหลายประเทศ เป็นอะไรที่น่าสนใจมากครับว่า งานแบบนี้น่าจะมีในประเทศไทยบ้าง
ผมยกนาฬิกาดู ความเงียบมาพร้อมกับลมกรรโชก ถึงเวลาที่ผมต้องทิ้งจุดนี้แล้ว เพื่อเดินทางไปยังจุดสุดท้ายก่อนบ่ายสาม ถ้าฝนตกทุกอย่างจะเลวร้ายทันที ผมดันคันเร่งเติมขึ้นไปอีกนิด เพราะผ่านช่วงวิกฤติมาสักระยะหนึ่งแล้ว จากป่าดิบเริ่มเป็นทุ่งโล่งสลับกับแหล่งต้นน้ำ ด้านซ้ายของผมคือลำธารขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ ภาพแบบนี้หาดูยากที่เมืองไทย ถนนค่อยแข็งขึ้นเรื่อยๆ ข้างหน้าของผมเป็นทางโค้ง มีร่องน้ำผ่านขนาดใหญ่ขวางอยู่ และเสี้ยววินาทีที่ผมกำลังจะพ้นจุดนี้ ล้อหลังฟรีไปรอบครึ่ง ที่เหลือคืออาการของรถที่สะบัดอย่างรุนแรง ผมควบคุมอะไรไม่ได้จนกระทั่ง ไหล่ซ้ายของผมสัมผัสพื้นโคลนแข็งๆ หมวกกันน็อคของผมครูดไปกับถนนตามด้วยแขนซ้าย และจบที่ข้อเท้า รถหยุดสงบนิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ขาผมติดอยู่กับช่วงล่างของรถ ออกมาไม่ได้ ผมจุกจนร้องไม่ออก ข้อมือทั้งสองปวดร้าวจนแทบกรีดร้อง โดยเฉพาะมือขวา มือที่ผมกดชัตเตอร์ มือที่ผมวาดรูป มือที่ผมถนัดที่สุด
เวลาผ่านไปกว่า 5 นาที ผมกระชากหลุดออกจากรถได้แต่ยืนไม่ได้แล้ว ความรู้สึกคือหักแน่นอน ตรงไหนไม่รู้แถวๆข้อเท้า โชคยังดีที่ใส่รองเท้าแบบ Touring แต่ไม่น่าจะพอสำหรับความรุนแรงระดับนี้ ผมรวบรวมสติ แต่ยากมากเพราะเจ็บปวดไปหมด เลือดที่แขนซ้ายออกไม่หยุด ในวินาทีนั้นภาพในหัวของผมก็ผุดเอาเรื่องราวคำสาปของงูยักษ์ขึ้นมาทันที
ผมกลับมานั่งอีกฝั่งของถนน ค่อยๆ ถอดรองเท้าออกสำรวจตัวเอง ข้อเท้าบวมเป็นสองเท่า สักพักก็มีหน่วยพยาบาลขี่รถเข้ามา ชุดนี้คือทีมสุดท้ายของการแข่งขัน เข้ามาดูแลผม สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนั้นคือยาแก้ปวด ทีมแจ้งผมว่าต้องรอรถมารับอีกหนึ่งชั่วโมง
ผมมีเวลาทั้งวันหลังจากเขมือบกล้วยไข่ที่ทีมพยาบาลทิ้งไว้ให้ และประกอบโดรนเพื่อบินสำรวจเส้นทางฆ่าเวลา โดรนพร้อมในไม่กี่นาที และภาพที่ผมเห็นเบื้องล่างนั่นคือป่าดงดิบที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ไร้ผู้คน และสิ่งที่ทำให้ผมขนลุกในภาพที่เห็นนั่นคือ เส้นทางที่คดเคี้ยวไปมาตัดกับป่าดิบชื้น รูปร่างของมันคืองูยักษ์ในฝัน มันคือคำสาปที่เป็นจริง
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก สำหรับผมรับได้ มันคืออุบัติเหตุ ผมออกจากป่าตรงนั้นประมาณบ่ายสอง ถึงโรงพยาบาลประมาณ 5 โมง X-Ray ตอน 2 ทุ่ม ฟังผลตอน 4 ทุ่ม สรุปไม่หัก (น่าจะเป็นข่าวดี) ผมออกจากโรงพยาบาลไปโรงพักตอน 5 ทุ่ม เดินทางถึงที่พักในป่าริมแม่น้ำตอนตี 2
เวลาผ่านไปกว่า 5 นาที ผมกระชากหลุดออกจากรถได้แต่ยืนไม่ได้แล้ว ความรู้สึกคือหักแน่นอน ตรงไหนไม่รู้แถวๆข้อเท้า โชคยังดีที่ใส่รองเท้าแบบ Touring แต่ไม่น่าจะพอสำหรับความรุนแรงระดับนี้ ผมรวบรวมสติ แต่ยากมากเพราะเจ็บปวดไปหมด เลือดที่แขนซ้ายออกไม่หยุด ในวินาทีนั้นภาพในหัวของผมก็ผุดเอาเรื่องราวคำสาปของงูยักษ์ขึ้นมาทันที
ผมกลับมานั่งอีกฝั่งของถนน ค่อยๆ ถอดรองเท้าออกสำรวจตัวเอง ข้อเท้าบวมเป็นสองเท่า สักพักก็มีหน่วยพยาบาลขี่รถเข้ามา ชุดนี้คือทีมสุดท้ายของการแข่งขัน เข้ามาดูแลผม สิ่งที่ดีที่สุดในตอนนั้นคือยาแก้ปวด ทีมแจ้งผมว่าต้องรอรถมารับอีกหนึ่งชั่วโมง
ผมมีเวลาทั้งวันหลังจากเขมือบกล้วยไข่ที่ทีมพยาบาลทิ้งไว้ให้ และประกอบโดรนเพื่อบินสำรวจเส้นทางฆ่าเวลา โดรนพร้อมในไม่กี่นาที และภาพที่ผมเห็นเบื้องล่างนั่นคือป่าดงดิบที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ไร้ผู้คน และสิ่งที่ทำให้ผมขนลุกในภาพที่เห็นนั่นคือ เส้นทางที่คดเคี้ยวไปมาตัดกับป่าดิบชื้น รูปร่างของมันคืองูยักษ์ในฝัน มันคือคำสาปที่เป็นจริง
เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก สำหรับผมรับได้ มันคืออุบัติเหตุ ผมออกจากป่าตรงนั้นประมาณบ่ายสอง ถึงโรงพยาบาลประมาณ 5 โมง X-Ray ตอน 2 ทุ่ม ฟังผลตอน 4 ทุ่ม สรุปไม่หัก (น่าจะเป็นข่าวดี) ผมออกจากโรงพยาบาลไปโรงพักตอน 5 ทุ่ม เดินทางถึงที่พักในป่าริมแม่น้ำตอนตี 2
เช้าขึ้นมาอีกวันหมอกลงหนาหนัก ภารกิจของผมยังไม่จบ ผมลากสังขารจากที่พักเดินทางไปยังแม่น้ำใหญ่ ผ่านภูเขาไปสองลูก และที่นั่นคือการแข่งขัน Sand Race ที่น่าตื่นตาอะดรีนาลีน
ของผมกระจัดกระจาย ลากขากะเพลกๆ ลงไปยังผืนทรายนุ่มๆ ปล่อยโดรนออกไปบันทึกเรื่อง และผมก็งัดเอา 70-200 mm. ขึ้นมาบันทึกการแข่งขันเบื้องล่าง ก่อนจบการแข่งขันผมต้องเดินทางกลับ KL ทันทีเพื่อให้ทันเที่ยวบินสุดท้ายที่จะกลับเมืองไทย ผมยังเดินต่อไปด้วยข้อเท้าที่เริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง
สรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้ ข้อเท้าผมหักจริงๆ แต่พึ่งมา X-Ray เจอที่กรุงเทพฯ หลังจากเหตุเกิดตั้ง 3 วัน ผมเดินทาง ทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียน และทำทุกอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเราคิดว่ามันไม่หัก จิตของคนมันทรงพลัง สามารถบังคับร่างกายให้แกร่งได้แม้วิกฤติ ภาพงูยักษ์และคำสาปยังคงวนเวียนให้ผมคิดถึง ปีหน้า Rimba Raid ที่บอร์เนียว ผมไปแน่นอน และนี่คือการเดินทางของผม หมาป่าเปลี่ยว The Steppenwolf หรือ Motographer ที่ทุกคนรู้จัก แล้วพบกันนะครับ
สรุปเหตุการณ์ในครั้งนี้ ข้อเท้าผมหักจริงๆ แต่พึ่งมา X-Ray เจอที่กรุงเทพฯ หลังจากเหตุเกิดตั้ง 3 วัน ผมเดินทาง ทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียน และทำทุกอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเราคิดว่ามันไม่หัก จิตของคนมันทรงพลัง สามารถบังคับร่างกายให้แกร่งได้แม้วิกฤติ ภาพงูยักษ์และคำสาปยังคงวนเวียนให้ผมคิดถึง ปีหน้า Rimba Raid ที่บอร์เนียว ผมไปแน่นอน และนี่คือการเดินทางของผม หมาป่าเปลี่ยว The Steppenwolf หรือ Motographer ที่ทุกคนรู้จัก แล้วพบกันนะครับ