“ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน” ยังคงเป็นสุภาษิตที่ไร้ยุคสมัย แต่ในฐานะนักออกแบบการสร้างบ้านตามสำนวนเป็นสิ่งที่ต้องวิเคราะห์ตั้งแต่จริตของเจ้าของ บ้านจึงเป็นที่ที่คนอยู่อาศัยไม่รู้สึกประดักประเดิดที่จะใช้ชีวิตอยู่ไปได้อีกนาน
   ภายนอกรั้วบ้านซึ่งร่มรื่นด้วยต้นไม้ของสองฝั่งถนนกั้นระหว่างคลองชลประทาน และบ้าน บรรยากาศจึงมีความร่มรื่นตั้งแต่ก่อนเข้าบริเวณรั้วบ้านแล้ว วัสดุที่ตัดกันของรั้วบ้านคอนกรีตกับสีของประตูบานเลื่อนไม้ และระแนงอลูมิเนียมอบสีที่วางถี่จนเป็นก้อนสีดำของส่วนหน้าตาพื้นผิวชั้นสอง การวางของตัวบ้านและแนวรั้วที่เป็นเส้นทำมุมแหลมค่อนข้างเรียกสายตาจากภายนอกได้ดี แม้ภาพรวมทั้งหมดจะไม่ได้ต้องการแสดงตัวแต่สามารถรับรู้ได้ถึงการออกแบบที่เรียบง่าย สะอาดตา และเข้ากับยุคสมัย

   เดิมทีบนที่ผืน 300 ตารางวานี้มีบ้านหลังใหญ่ที่สมาชิกในครอบครัวกำลังขยับขยายออก จึงเกิดโครงการเฉือนที่ดินในแปลงเดียวกันสำหรับปลูกเรือนหอ ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นเคยมีอาคารเล็ก ต้นสาละ ต้นชงโค และสระว่ายน้ำ โดยยังคงเก็บต้นไม้ทั้งสองต้น และสระไว้ที่เดิม ณ จุดนี้ คุณพงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ คุณปานดวงใจ รุจจนเวท และทีม ANONYM (แอนโนนีม) จึงเข้ามาในบทบาทของผู้ออกแบบส่วนขยายของครอบครัวหน่วยนี้ทั้งส่วนงานสถาปัตยกรรม และออกแบบภายใน ทางทีมเริ่มศึกษาเจ้าของบ้านตั้งแต่การคุยงานแล้ววิเคราะห์สิ่งที่มีความเป็นผู้ใช้งานมากที่สุด แต่อาจด้วยเพราะจริตที่ถูกกันหรือความถูกชะตา จึงเกิดบทสนทนาของผลงานที่ต่อยอดไปในทิศทางเดียวกันในที่สุด
   “เวลาทำบ้านจะดูจากบุคลิกเจ้าของบ้าน ดูความเหมาะสม ความเป็นไปได้ รวมถึงปัจจัยต่างๆ ว่าเราทำให้เขาได้หรือไม่? เพราะเวลาคุยงานต้องเป็น Dialogue ต่อยอดไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเจ้าของทั้งคู่ก็มีบุคลิกเรียบง่าย สบายๆ แต่งตัวสะอาดตา มีความน่ารัก และรู้สึกถูกชะตา” คุณพงศ์ภัทร เอื้อสังคมเศรษฐ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Design Director ของ ANONYM อธิบายบุคลิกของเจ้าของบ้านพอสังเขป

  เมื่อถึงการนำเสนอแบบแปลนครั้งแรกเจ้าของบ้านก็รู้สึกชอบ หลังจากนั้นก็พัฒนาแบบได้ค่อนข้างเร็ว ด้วยวิธีการศึกษาจากไดอะแกรม และบริบทของพื้นที่ จึงได้ไดอะแกรมสี่เหลี่ยมของตัวบ้านที่ถูกวางขนานกับสระน้ำ มีหลักการวางพื้นที่อย่างตรงไปตรงมา การแบ่งมวลไดอะแกรมจึงแบ่งออกเป็น 3 ก้อน ได้แก่ ห้องนอนมาสเตอร์ และห้องนอนเล็ก 2 ห้อง อันมีการใช้งานหลักเกิดขึ้นช่วงเวลากลางคืน ก้อนนี้จึงได้นิยามสีดำ ก้อน Transition เชื่อมระหว่างมวลสีดำ 2 ก้อน กลายเป็นโถง Double Space ของห้องนั่งเล่นที่มีการใช้งานหลักในช่วงกลางวัน จึงจำกัดนิยามพื้นที่ส่วนนี้เป็นก้อนใส แล้วมีก้อนสีขาวของพื้นที่ Multi-purpose มาเสียบทำให้พื้นที่โถงเกิดการเล่นระดับที่น่าสนใจ

   จากก้อนไดอะแกรมเริ่มแรกที่นิยามไว้ถูกแปลงออกมาในรูปแบบวัสดุปิดผิว ซึ่งก้อนพื้นที่สีดำ 2 ก้อน ถูกออกแบบให้เป็นพื้นผิวทึบปิดด้วยแผงระแนงอลูมิเนียมอบสีดำเป็น Double Skin กันความร้อนที่ถูกใช้ประโยชน์เสมือนราวกันตกและเหล็กดัดทั่วไปเพื่อความปลอดภัยที่สามารถรับแสงรับลม โดยที่ภายในจะเป็นหน้าต่าง-ประตูเลื่อนกระจก หรือระเบียงได้ทั้งที่คงความเป็นส่วนตัวอยู่ โดยปิดผิวที่ล้อมกรอบทั้งภายนอก และในตัวมวลไดอะแกรม แต่รูปด้านที่ค่อนข้างแบนผู้ออกแบบจึงเพิ่มมิติให้ก้อนพื้นที่ด้วย Pop-up ฟาซาดซึ่งยื่นออกมาให้ได้มิติมุมมองที่กว้างขึ้น ก้อนพื้นที่ใสเป็นพื้นที่ Common Area ขนานกับสระว่ายน้ำที่สามารถมองกลับผ่านพุ่มไม้ไปที่บ้านเก่าได้ เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ต้องการเปิดโล่งให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ด้วยกระจกแบ่งกรอบอลูมิเนียมยาวเต็มความสูง Double Space และมวลสีขาวที่ทาด้วยสีขาว
   ด้วยการออกแบบที่ต้องการให้พื้นที่ค่อยๆ เผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใน และจู่โจมด้วยความแตกต่างของขนาดเพื่อสร้างความประหลาดใจ มาจากการวางทิศทาง และเข้าถึงแต่ละพื้นที่การใช้งานที่มีการวางลำดับเช่นบ้านทั่วไป จนกลายเป็นเสน่ห์ และน่าค้นหาต่อไป

   จากหน้าบ้านที่หันเฉียงไปทิศตะวันตก และทิศเหนือเล็กน้อย ซึ่งรับความร้อนจากดวงอาทิตย์โดยตรง บวกกับความพอดีของรูปด้านหน้าบ้านที่ไม่ต้องการแสดงตัวตนให้โดดเด่นมากนัก รูปด้านฝั่งนี้จึงถูกออกแบบให้เป็นพื้นผิวทึบที่ซ่อนห้องนอนเล็กสองห้องบนชั้น 2 แล้วยังวางที่จอดรถ ทางเข้าบ้าน ห้องแม่บ้าน และบันไดที่ชั้น 1 ผังฝั่งทิศตะวันออกซึ่งร้อนน้อยกว่าจึงวางเป็นพื้นที่ห้องครัว และบริเวณที่นั่งทานข้าวที่เชื่อมทะลุกับโถงห้องนั่งเล่นของชั้น 1 บนชั้น 2 คือห้องนอนมาสเตอร์รวมห้องน้ำในตัว
   แม้การทำงานจะดูเป็นไปอย่างไร้อุปสรรคเพราะความลื่นไหลตั้งแต่เบื้องต้น แต่ “Less is More” เมื่อยิ่งเรียบงานยิ่งต้องเนี้ยบ เพราะความไม่เรียบร้อยสามารถฟ้องออกมาผ่านงานได้ในทันที งานโครงสร้างจึงถูกมองเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรมเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตั้งแต่ต้น ด้วยการทำงานร่วมกับวิศวกรเพื่อให้ได้โครงสร้างที่สัมพันธ์กับพื้นที่ของบ้าน โดยเจ้าของบ้านจะมีความสนุกในการเข้ามามีส่วนร่วมเลือกเฟอร์นิเจอร์ และขอความคิดเห็นจากทีมออกแบบเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปร่วมกัน

   บ้านมีลักษณะอย่างไรเจ้าของบ้านก็มีบุคลิกเช่นนั้น บ้านที่โปร่งโล่ง ธรรมดา แต่สบายตา สะท้อนภาพลักษณ์ของเจ้าของบ้านที่เป็นคนใจเย็นทั้งคู่ เพราะ bAAn เป็นชื่อเฉพาะของบ้านซึ่งมาจากตัวอักษรย่อของเจ้าของ ให้ใจความหลักของความหมายของบ้าน เป็นนัยยะของครอบครัว ที่ทั้งย่อและขยายความเป็นตัวตนให้เข้ากับผู้อยู่อาศัย “บ้าน” หลังนี้จึงไม่ได้มีอยู่ทั่วไป แต่เป็น “บ้านของแอนดี้กับโน้ต” ที่มีอยู่เพียงหลังเดียวเท่านั้น