Store & Cafe แห่งใหม่ ที่ทำให้ Indigoskin “เป็นมากกว่าแบรนด์กางเกงยีนส์”
ครบรอบ 10 ปี Indigoskin แบรนด์เดนิมสายเลือดไทย มาพร้อมแบรนดิ้งใหม่ เป็นมากกว่าแบรนด์เสื้อผ้า แต่คือไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่คนจะนึกถึงตั้งแต่เรื่องของเดนิม จนถึงกาแฟ ภายในแฟลกชิพสโตร์และคาเฟ่แห่งใหม่ให้ลูกค้าได้ช้อปปิ้ง นั่งชิลจิบเครื่องดื่ม และพบปะพูดคุยกับ Denim Lover คอเดียวกัน ภายในบ้านหลังใหม่ย่านสีลม
ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเพียง 150 เมตร ก็จะพบกับแฟลกชิพสโตร์และคาเฟ่แห่งใหม่ของ Indigoskin ในซอยศาลาแดง 2 ที่ดีไซน์เรียบง่่าย แต่ดูอบอุ่น และสอดแทรกความเป็น Indigoskin อยู่ในองค์ประกอบต่างๆ อย่างน่าสนใจเช่นเคย โดยชั้น 1 เป็นส่วนของ Indigoskin Cafe ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. และชั้น 2 เป็น Indigoskin Store สำหรับช้อปเสื้อผ้าแบรนด์ Indigoskin ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น.
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Indigoskin
“Indigoskin กำลังจะครบรอบ 10 ปี เราจึงอยากเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ และอยากทำให้แบรนด์ Indigiskin เป็นมากกว่าแบรนด์กางเกงยีนส์ แต่เกี่ยวพันกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนและสร้างประสบการณ์ท่ีลูกค้าหาไม่ได้จากการซื้อออนไลน์” ก้อ ธัชวีร์ สนธิระติ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Indigoskin กล่าวถึงที่มาของการเปิดแฟลกชิปสโตร์พร้อมคาเฟ่ในบรรยากาศสบายๆ ที่เป็นจุดนัดใหม่ของเหล่า Denim Lover ผู้ที่ชื่นชอบสตรีทแวร์ จนถึงผู้หลงใหลกาแฟ “เราอยากให้ที่นี่เป็นฮับแห่งใหม่ของคนที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน ตั้งแต่การแวะชมเสื้อผ้า นั่งจิบกาแฟ จนถึงการแลกเปลี่ยนไอเดียระหว่างกัน เราไม่ได้ต้องการแค่ขายเสื้อผ้า หรือขายกาแฟอย่างเดียว แต่อยากให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้านที่มีไว้เพื่อต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนด้วยครับ”
ที่นี่ยังคัดสรรหนังสือหายากเกี่ยวกับด้านดีไซน์ งาน Indigo และงานยีนส์ จากประเทศต่างๆ มาให้ผู้สนใจได้อ่านด้วย พร้อมกับมุมโต๊ะให้ลูกค้าสามารถนั่งทำงานได้ตามอัธยาศัย ซึ่งเป็นความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ต้องการให้ที่นี่มีพื้นที่นั่งทำงานด้วย “ผมเป็นคนไม่ทำงานในออฟฟิศเลย ชอบออกไปข้างนอก เพราะแรงบันดาลใจในการออกแบบของผมส่วนใหญ่มาจากการได้เห็นสิ่งรอบตัว ผมชอบนั่งทำงานในห้องสมุด ไม่ก็ร้านกาแฟ เลยคิดว่าเราควรเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเองเลยดีกว่า”
ด้วยจุดเด่นของแบรนด์ Indigoskin คือการผสมผสานระหว่างผ้ายีนส์คุณภาพดีจากประเทศญี่ปุ่น เข้ากับลวดลายไทย หรือผ้าทอของไทย ทำให้ที่นี่ไม่ทิ้งความงามของเอกลักษณ์ลายไทยที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ ภายใต้ภาพรวมที่เรียบร้อยสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น สวนญี่ปุ่นที่ใช้ต้นไม้ไทยและประดับด้วยโคมไฟลายกนกไทย การซ่อนลายกนกบนพื้นคอนกรีตหน้าร้าน การตกแต่งด้วยภาพเพ้นท์ย้อมครามและลายไทยที่ปะติดปะต่อแบบงาน Patchwork เป็นต้น
ส่วนของ Indigoskin Store บนชั้น 2 นั้น จะได้พบกับทั้งคอลเลคชั่นใหม่ของ Indigoskin พร้อมโลโก้ใหม่และดีไซน์ใหม่ในแบบที่ Indigoskin ไม่เคยทำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นกางเกงแนว Over Size เสื้อแนว Relaxed Fit และแจ็คเก็ตผ้าไนลอน ในขณะเดียวกันก็ยังมีกางเกงยีนส์คลาสสิคของแบรนด์ ทั้งยีนส์ฟอก ยีนส์ผ้าดิบ และยีนส์สไตล์วินเทจที่ Indigoskine ทำมาตลอด 10 ปี ในอนาคต Indigoskin ยังมีแพลนขยายไปถึงการทำเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ด้วย ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไป
“สำหรับปีนี้ ซึ่งเป็นปีครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ ทาง Indigoskin ยังวางแผนที่จะ Collaborate กับแบรนด์ต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศรวม 10 แบรนด์ เพื่อเป็นโปรเจกท์พิเศษในโอกาสเฉลิมฉลอง Indigoskin ครบรอบ 10 ปี ที่ตลอดทั้งปีนี้ลูกค้าจะได้พบกับไอเท็มใหม่ๆ จากการ Collaboration พร้อมกับการหยิบจับเสื้อผ้าคอลเลคชั่นเก่าของ indigoskin มาดีไซน์ใหม่ ดังนั้นปีนี้ทาง Indigoskin ก็มีอะไรสนุกๆ ออกมาอีกเยอะเลย”
“สำหรับที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าแบรนด์ Indigoskin อย่างเดียวเท่านั้น ขอให้เป็นสิ่งที่เราสนใจหรือรักเหมือนๆ กัน ก็เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนไอเดียกันได้ครับ”
“สำหรับที่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อผ้าแบรนด์ Indigoskin อย่างเดียวเท่านั้น ขอให้เป็นสิ่งที่เราสนใจหรือรักเหมือนๆ กัน ก็เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนไอเดียกันได้ครับ”