ONE DAY
WITH
MOTO GUZZI
ในบางครั้งจุดหมายปลายทางเป็นเพียงสิ่งที่ตั้งต้นเพื่อไปให้ถึง แต่ระหว่่างทางคือความตื่นเต้น และอิสระที่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์เท่านั้นที่จะเข้าใจ การออกทริปเป็นประสบการณ์ และให้อารมณ์ที่เเตกต่างจากการเดินทางในรูปแบบอื่นๆ การเลือกเส้นทาง เเละเลือกคนที่ไปด้วย จนถึงรถที่ใช้ในการเดินทางเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ในเช้าวันศุกร์ของเดือนตุลาคมปลายฤดูฝนต้นหนาว ทีมงานของ EVERYTHING วางแผนออกทริปโดยใช้ Moto Guzzi 4 คัน ที่เริ่มต้นเดินทางกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง จุดหมายปลายทางของเราวันนี้คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เราเลือกที่นี่เพราะต้องการสำรวจเส้นทางธรรมชาติที่ใกล้ กทม. ที่ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เป็นสถานที่ที่คนไม่ค่อยนิยมมากนัก อีกทั้งมีเส้นทางสวยงาม และระหว่างทางมีจุดท่องเที่ยวหลายเเห่งให้ได้สัมผัส
เราเลือก Moto Guzzi ทั้งหมด 4 คันเป็นรุ่น V7 III CARBON SHINE, V7 III STONE, V7 III ANNIVERSARIO และ V9 BOBBER แต่ละคันก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน Moto Guzzi V7 มอเตอร์ไซค์สายโมเดิร์นคลาสสิคที่มีประวัติอันยาวนาน ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวสะดุดตา ถังน้ำมันที่ออกแบบมาอย่างลงตัวไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ดูสอดรับกันกับเครื่อง V ที่อยู่ด้านข้างอย่างสวยงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Moto Guzzi V7 สำหรับคนที่ชอบงานออกแบบสไตล์อิตาเลียน Moto Guzzi ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างเเน่นอน ส่วนคนที่ชอบรถที่ดูเเนว คลาสสิควินเทจ Moto Guzzi V9 BOBBER น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ด้วยท่านั่งที่ขายื่นไปข้างหน้าเเละเเขนที่ค่อนข้างตรง ทำให้ท่าขับขี่ต่างจาก V7 เหมาะสำหรับคนที่รูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่เเละชอบความบึกบึนในการขับขี่
คนที่ร่วมเดินทางในทริปครั้งนี้กับ EVERYTHING ด้วยคือ พี่ปู CHEEZE (จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์) ผู้หลงใหลการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ, ธนพล แก้วพริ้ง ช่างภาพมากฝีมือของ EVERYTHING และดนุ ภูมาลี นักออกแบบที่ชื่นชอบการเดินทาง ทุกคนที่กล่าวมาเรามักออกทริปด้วยกันอยู่เสมอ
เราออกเดินทางจากสุวินทวงศ์ประมาณ 46 กิโลเมตรถึงตัวเมืองฉะเชิงเทรา ตัดผ่านตัวเมืองออกไปยังอำเภอพนมสารคาม ตามทางหลวงหมายเลข 304 แล้วเลี้ยวขวาที่แยกพนมสารคามเข้าสู่อำเภอสนามชัยเขต ใช้ทางหลวงหมายเลข 3245 แล้วเลี้ยวขวาใช้ทางหลวง 3259 ผ่านอำเภอท่าตะเกียบเข้าสู่บ้านหนองคอก สองข้างทางส่วนใหญ่เป็นสวนยางพารา ไร่มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส ถนนโล่ง เราใช้ความเร็วได้ค่อนข้างดี เพราะ Moto Guzzi เป็นรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบาทำให้การขับขี่คล่องตัว อัตราเร่งทำได้ดีตอบสนองทันใจ เครื่องยนต์บาลานซ์ดี เวลาที่ใช้เกียร์ 4/5/6 ค่อนข้างลื่นไหล ทำให้การเดินทางครั้งนี้รวดเร็ว เครื่อง V สูบเฉียงที่อยู่ด้านข้างระบายความร้อนได้ดีไม่ร้อนขาเวลาขี่ โดยรวมเป็นรถที่ขี่ง่ายเฟรนด์ลี่สำหรับทุกคน เหมาะกับการเดินทางไกล
ช่วงสายๆ เราแวะปั้มแห่งหนึ่งระหว่างทาง เราชอบบรรยากาศที่นี่เหมือนเราหลุดมาอีกที่หนึ่งห่างไกลจากกทม. ซึ่งถ้าให้ขับรถยนต์มาคงไม่มา เเต่เราเลือกที่จะมาด้วยมอเตอร์ไซค์ คนแถวนั้นถามเราว่าไปไหนกัน เราบอกไปอ่างฤาไน ทุกคนก็เตือนให้ระวังช้างป่า เพราะช้างของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนค่อนข้างดุ ควรใช้ความระมัดระวัง ด้วยเส้นทางที่เราขี่นั้นต้องตัดผ่านใจกลางของป่ารอยต่อ 5 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง และสระแก้ว ซึ่งค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ จริงๆ ลึกๆ แล้วอยากเจอเหมือนกัน คงตื่นเต้นน่าดู
เส้นทางที่เรารู้สึกว่าใกล้กทม.มากๆ แต่วิ่งมาเรื่อยๆ กลับรู้สึกเหมือนหลุดมาแถวชายแดน ด้วยบรรยากาศบ้านคน รถราที่วิ่งส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตร ทางนี้ส่วนใหญ่เป็นทางสัญจรของรถบรรทุกที่มาจากเส้นตะวันออกเพื่อไปยังภาคอีสาน และเชื่อมโยงกับเส้นแหลมฉบัง ระยอง จันทบุรี บางครั้งถนนจึงค่อนข้างโล่ง ขี่สบาย เราเลี้ยวซ้ายตัดเข้าไปที่อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ที่เป็นจุดท่องเที่ยวในถนนสายนี้ ขี่ผ่านเข้าไปยังตัวเขื่อนที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และอากาศดีไม่ร้อนจนเกินไปนัก
จากอ่างเก็บน้ำคลองสียัด มุ่งหน้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ถนนเริ่มคดเคี้ยวเลี้ยวโค้งไปตามเนินเขาเล็กๆ ผ่านตลาดบ้านหนองคอก เข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน สำหรับผู้เดินทางสามารถแวะเติมน้ำมัน รับประทานอาหารได้ที่นี่ เพราะจากนี้ไปจะเริ่มเข้าสู่เขตป่าและสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างมีน้อย เราขับผ่านด่านตรวจของทหาร และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ป่าสองข้างทางเริ่มหนาแน่นขึ้น อากาศเริ่มเย็นขึ้นกว่าเดิม ถนนสวยและดีมาก นับเป็นเส้นทางที่เหมาะกับการมาขับขี่อย่างมาก ถนนค่อนข้างตรง ยาว และมีโค้งสลับเป็นระยะๆเวลาลงเขา เวลาเข้าโค้ง สมรรถนะของรถค่อนข้างดีมากคอนโทรลง่าย
จากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เราขี่ย้อนกลับมาทางตลาดหนองคอก เพื่อไปยังจุดหมายอีกแห่ง เราอยากทดสอบสมรรถนะของรถว่าเข้าป่าได้ไหม จริงๆ ยางที่ใช้ไม่เหมาะสำหรับดินลูกรัง หรือสาย Dirt เท่าไหร่ แต่ด้วยน้ำหนักรถที่เบาเลยอยากลองดู
เส้นทางที่เราจะไปคือ ทางเข้าน้ำตกเขาอ่างฤาไน ซึ่งห่างจากตัวตลาดเพียง 12 กิโลเมตร แต่ทางเข้าต้องเข้าไปอีก 17 กิโลเมตร โดยทางเข้าไปยังน้ำตกเป็นเพียงถนนลูกรังแคบๆ ที่รถยนต์ไม่สามารถขับสวนกันได้ ข้างทางเป็นป่าดิบแล้ง มีขี้ช้างอยู่เป็นระยะ ยางกับเส้นทางพอจะขับไปได้ประมาณหนึ่ง ไม่ถึงกับลำบากมากนัก เส้นทางมีน้ำขังและเป็นโคลนค่อนข้างมาก เราขี่ผ่านอุปสรรคมาได้พอสมควร ไปต่อเรื่อยๆ ก็คงถึงตัวน้ำตกได้ไม่ยาก เเต่เนื่องจากเวลาที่เราเข้าป่าเป็นช่วงเย็น ทำให้เราเข้าไปไม่ถึงตัวน้ำตก แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการเดินทางทริปใกล้ 1 วันที่สนุก และให้แรงบันดาลใจจากการขี่ได้พอสมควร เหมาะกับการเปลี่ยนบรรยากาศและหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการขี่
สำหรับเพื่อนสนิท การเดินทางออกทริปด้วยกันบ่อยๆ ทำให้มิตรภาพของเพื่อนแน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมชื่นชอบบรรยากาศในการเดินทาง นี่แหละที่เรียกกันว่ามิตรภาพสองล้อ
227 Km
เส้นทางการเดินทาง จากกทม. ใช้เส้นทางมีนบุรี ผ่านถนนสุวินทวงศ์ และทางหลวงหมายเลข 304 มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร จากนั้นตัดผ่านตัวเมืองไปทางอำเภอพนมสารคามอีกประมาณ 50 กิโลเมตรสู่อำเภอสนามชัยเขต โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนฉะเชิงเทรา- กบินทร์บุรี) จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกพนมสารคามผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 3245 และเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหมายเลข 3259 ผ่านอำเภอท่าตะเกียบ ไปทางหนองคอก มุ่งหน้าสู่อำเภอสนามชัยเขต
อ่างเก็บน้ำคลองสียัด อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ตั้งอยู่ในอำเภอท่าตะเกียบ ซึ่งห่างจากอำเภอสนามชัยเขตประมาณ 39 กิโลเมตร โดยใช้ถนนสาย 3259 (เส้นท่าตะเกียบ - วังน้ำเย็น) เส้นทางที่จะนำไปสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้ด้วย

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน
จากอ่างเก็บน้ำคลองสียัด วิ่งบนถนนสาย 3259 ผ่านตลาดบ้านหนองคอก อีกประมาณ 34 กิโลเมตร จะถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ส่วนหนึ่งของป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม-สียัด ป่าอนุรักษ์พื้นที่กว้างใหญ่ที่เป็นรอยต่อของ 5 จังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และสระแก้ว

น้ำตกเขาอ่างฤาไน
จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ขี่ย้อนกลับมาทางตลาดบ้านหนองคอก ผ่านเส้นทางหลวงหมายเลข 3259 และเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 4008 จะพบกับทางเข้าน้ำตกเขาอ่างฤาไน ที่อยู่ห่างจากตลาดบ้านหนองคอกประมาณ 12 กิโลเมตร จากนั้นขี่ผ่านทางลูกรังอีก 17 กิโลเมตรสู่ตัวน้ำตก รวมระยะทางจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน-น้ำตกเขาอ่างฤาไนประมาณ 34 กิโลเมตร
สรุปการเดินทางในทริปนี้รวมเป็นระยะทางทั้งหมดราว 454 กิโลเมตร ( ระยะทางไป-กลับ )
Special Thanks: Moto Guzzi Thailand
Facebook: Moto Guzzi Thailand
Instagram: motoguzzi_thailand